หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เกาะราชาใหญ่


เกาะราชาใหญ่



ชมปะการังแสนสวย

เกาะราชาใหญ่เป็นเกาะที่มี่ความสวยงาม นอกจากแนวปะการังน้ำตื้นแล้ว ยังมีหาดทรายขาวสะอาด และบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นธรรมชาติ


ที่ตั้งและการเดินทาง
อยู่ตอนใต้ของเกาะภูเก็ต ระยะทางประมาณ 15 กม. เหมาเรือจากอ่าวฉลองหรือหาดราไวย์ไปขึ้นที่หาดตะวันตก เกาะราชาใหญ่





สิ่งน่าสนใจ

เกาะราชาใหญ่มีหาดทรายให้เล่นน้ำได้หลายหาด หาดทรายด้านหน้าคือหาดตะวันตกเป็นหาดโค้งยาว
น้ำตื้น เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมานอนอาบแดดกันมาก ปลายสุดของหาดมีจุดชมวิว สามารถเดินไปชมทิวทัศน์มุมสูงของเกาะได้ จากหาดตะวันตกมีทางเดินไปด้านหลังเกาะ ซึ่งมีหาดอีกสองแห่งคือ อ่าวสยามและอ่าวขอนแค เป็นจุดดำน้ำตื้นของเกาะราชาใหญ่ มีปะการังหลายชนิด ได้แก่ ปะการังกิ่ง ปะการังจาน และปะการังพุ่ม ส่วนปลาที่พบส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดเล็ก เช่น ปลาผีเสื้อ ปลาเก๋า เป็นต้น

Cr.http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/phuket/ustasit_k/place-sea/racha.html

แหลมพรหมเทพ


แหลมพรหมเทพ


จุดชมพระอาทิตย์ตกที่เลื่องชื่อในความงาม

แหลมพรหมเทพเดิมชื่อว่าแหลมเจ้า เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเลื่องชื่อของภูเก็ต เมื่อได้เวลาใกล้พระอาทิตย์ตก ที่นี่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน

ที่ตั้งและการเดินทาง อยู่ทางใต้สุดของเกาะภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กม. จากห้าแยกฉลองตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 4024 ผ่านหาดราไวย์และหาดในยะ จากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 4233 อีกประมาณ 650 กม. ก็ถึงลานจอดรถของแหลมพรหมเทพ ต้องเดินขึ้นบันไดไปบนเนินสูงเพื่อไปจุดชมวิว ถ้าต้องการชมทิวทัศน์ที่ปลายแหลมพรหมเทพ ต้องเดินต่อไปตามทางเดินอีกประมาณ 1 กม.เศษ หรือจะชมบริเวณลานประภาคารก็ได้

สิ่งน่าสนใจ

จุดชมทิวทัศน์

สอบถามเวลาพระอาทิตย์ตกได้ที่สถานีอุตุนิยมวิทยาภูเก็ต โทร 0-7621-1494 ในเวลาราชการ หรือดูป้าย
บอกเวลาของกรมอุทกศาสตร์ที่ลานประภาคาร
                เหตุที่แหลมพรมเทพเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยอดนิยมเนื่องจากเป็นจุดที่สวยงามและเห็นพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุดด้วยลักษณะภูมิศาสตร์เป็นแหลมสูงชันทอดยาวไปในทะเล จึงมองเห็นทัศนียภาพเป็นมุมเปิดกว้าง ด้านหน้าคือเกาะแก้วน้อยและเกาะแก้วใหญ่ ด้านขวาเป็นหาดในหานและเกาะมัน ส่วนด้านซ้ายจะมองเห็นหาดในยะซึ่งเป็นหาดเล็ก ๆ เมื่อยืนอยู่บนแหลมพรหมเทพจะมองเห็นเวิ้งทะเลกว้างไกล ในวันที่ท้องฟ้าเปิดปราศจากเมฆ ภาพพระอาทิตย์สีส้มลอยลับลงไปในผืนน้ำ สาดแสงให้ริ้วคลื่นกลายเป็นสีเหลืองทองงามจับใจจะประทับอยู่ในความทรงจำของหลาย ๆ คนจนต้องย้อนกลับมาที่นี่อีกครั้ง

รอบแหลมพรหมเทพเป็นโขดหินใหญ่ เห็นคลื่นชัดแตกกระเซ็นเป็นฟองสีขาว สามารถตกปลาได้ แต่ต้องระมัดระวังพอสมควรไม่ยืนบนโขดหินหรือใกล้น้ำ เพราะอาจได้รับอันตรายจากคลื่นและลมแรงได้

ประภาคารกาญจนาภิเษก

เป็นประภาคารที่กองทัพเรือและชาวภูเก็ตร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องใจปีกาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539 เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายในการเดินเรือ เนื่องจากชาวภูเก็ตเป็นศูนย์กลางจองการคมนาคมทางทะเลอันดามัน ประภาคารแห่งนี้สูง 50 ฟุต ตรงกับวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 50 ปี

ภายในอาคารด้านล่างจัดเป็นนิทรรศการให้ความรู้เรื่องกระโจมไฟและประภาคาร แสดงแบบจำลองของประภาคารและกระโจมไฟที่สำคัญ เช่น กระโจมไฟชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ประภาคารอัษฎางค์ ประภาคารตากใบ ฯลฯ  มีป้ายบรรยายประวัติความเป็นมาของประภาคารและกระโจมไฟ ตัวอย่างเครื่องวาบหรือไฟวับวาบตะเกียงน้ำมันที่ใช้ในกระโจมไฟ ตะเกียงไฟฟ้าแบบต่าง ๆ ฯลฯ

นอกจากนิทรรศการชั่นล่างแล้ว มีบันไดเวียนขึ้นไปชั้นบนของประภาคาร ซึ่งจัดแสดงเรือหลวงจำลอง พร้อมประวัติของเรือแต่ละลำ เช่น เรือหลวงศุกร์ เรือหลวงสุริยะ หรือหลวงจันทร ฯลฯ และสามารถเดินออกไปชมทิวทัศน์บนดาดฟ้าของประภาคารได้ด้วย

Cr.http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/phuket/ustasit_k/place-sea/promthep.html.html

หาดป่าตอง


หาดป่าตอง


เที่ยวหาดสวยที่สุดของภูเก็ต

หาดป่าตองเป็นหาดที่สวยที่สุดในภูเก็ตและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจนกล่าวได้ว่าเมื่อเอ่ยถึงทะเลภูเก็ต หลายคนมักนึกถึงหาดป่าตองเป็นแห่งแรก ความงามของป่าตองทำให้ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศมุ่งมาเยือนหาดแห่งนี้ นอกจากเสน่ห์ของหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีฟ้าใสแล้ว ป่าตองยังพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกนานัปการ เป็นศูนย์รวมของธุรกิจและความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ บริการนำเที่ยว นั่งช้าง เดินป่า พายเรือแคนู เที่ยวเกาะ มีร้านตดปลาและดำน้ำนับสิบร้าน ตลอดจนช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของที่ระลึกมากมาย จนกล่าวได้ว่าทุกสรรพสิ่งที่นักท่องเที่ยวปรารถนา ถามหาได้ที่ป่าตอง

ที่ตั้งและการเดินทาง : ตั้งอยู่ในอ.กะทู้ ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 15 กม.

รถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 4020 ผ่านสี่แยกไทนานและแยกเก็ตโฮ่ ทรงไปทาง อ.กะทู้ผ่านที่ว่าการ อ.กะทู้ ตรงไปจนถึงสี่แยกสี่กอ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4029 ไปประมาณ 3.5 กม. ผ่านวัดสุวรรณคีรีวงศ์ตรงสามแยก ให้ตรงไปตาม ถ.พระบารมีอีก 1 กม.เศษ จะพบกับทางหลวงหมายเลข 4233 หรือ ถ.ทวีวงศ์ซึ่งเป็นถนนเลียบหาด ให้เลี้ยวซ้ายไปหาดป่าตอง

รถสองแถว นั่งรถสายภูเก็ต-หาดป่าตอง ค่ารถ 15 บาท

ประวัติ หาดป่าตองในอดีตเป็นหาดที่คนทั่วไปไม่รู้จัก นอกจากกลุ่มฮิปปี้ที่รักธรรมชาติและความสงบ เนื่องจากหาดอยู่หลังเขาสูงชัน เดินทางไปยากลำบาก มีเพียงชาวเลอาศัยอยู่ และเรียกหาดแห่งนี้ว่า กรากอตอ หมายถึงช่องเขากำแพงซึ่งขวางกั้นระหว่างตัว อ. กะทู้กับชายหาด ช่องเขานี้สามารถเดินทะลุมายังชายหาดบริเวณนี้ได้ เมื่อเวลาผ่านไป คนจึงเรียกเพี้ยนไปจากเดิมเป็นกรากระตอน แล้วกลายเป็นหาดป่าตองในที่สุด หลังจาดมีการตัด ถ.พระบารมีในปี พ.ศ. 2502 ทำให้การเดินทางไปหาดป่าตองสะดวกยิ่งขึ้น นับเป็นการเปิดโลกการท่องเที่ยวของหาดป่าตองให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว

สิ่งน่าสนใจ

ทะเลและหาดทราย หาดป่าตองตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะภูเก็ต จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เนื่องจากถูกแรงคลื่นลมกัดเซาะ ทำให้ชายฝั่งเว้าลึกเป็นรูปโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว มีความยาวเกือบ 3 กม. เป็นทัศนียภาพที่สวยงามเมื่อยืนอยู่ริมหาด จึงมองเห็นหาดทรายสีขาวสะอาดทอดตัวยาวออกไปสุดสายตา และน้ำทะเลที่เปลี่ยนสีต่างกันไป บางฤดูกาลอาจเป็นสีเขียวมรกต สีน้ำเงินหรือครามเข้ม ตัดกับสีขาวนวลของเม็ดทราย เหมือนธรรมชาติเปลี่ยนฉากต่างกันไปในแต่ละวัน ดูเพลิดเพลินไม่รู้เบื่อ

ชายหาดกว้างขวาง เต็มไปด้วยร่มหลากสี มีนักท่องเที่ยวนอนอาบแดดเรียงราย ท่ามกลางเสียงคลื่นขับกล่อมและลมทะเลที่พัดเอื่อยๆในช่วงเช้าหรือเย็น เป็นเวลาที่เหมาะจะลงเล่นน้ำ เพราะชายหาดไม่ร้อนเกินไปนัก หาดป่าตองยังมีลักษณะพิเศษ คือชายหาดโอบล้อมด้วยภูเขาเป็นแนวยาวปิดหัวท้ายของหาด ช่วยกำยังคลื่นลมได้เป็นอย่างดี บริเวณหน้าหาดน้ำตื้น จึงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย หน้าหาดยังมีกิจกรรมและกีฬาทางน้ำหลายชนิดให้เลือกสนุก ไม่ว่าจะเป็นบานาน่าโบ๊ต พาราเซล วินเซิร์ฟ หรือเจ็ตสกี หากชอบดำน้ำ บริเวณแหลมหัวและท้ายหาดยังมีปะการังเป็นแนวกว้างเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ชมความงามของโลกใต้ทะเลได้ แม้ว่าในอดีตปะการังในแถบนี้จะหักพังไปบ้าง แต่ปัจจุบันเริ่มฟื้นตัวจนมีสภาพปานกลาง ส่วนใหญ่เป็นปะการังจาน ปะการังกิ่ง และปะการังโขด มีฝูงปลากะพงมาว่ายเวียนให้ชมเป็นประจำ

ตกเย็นจะไปเดินเล่นชมบรรยากาศริมหาดก็รื่นรมย์ไม่น้อยหากเดินเรียบหาดป่าตองไปทางด้านเหนือจะถึงหาดกะหลิมซึ่งเป็นหาดเล็กๆ ติดกับหาดป่าตอง ชายหาดเต็มไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่ เป็นมุมที่ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบเป็นส่วนตัว
ป่าตองจะเป็นที่เที่ยว ที่มีหลายมิติหลากรสชาติ สุดแต่ว่าจะเลือกเที่ยวแบบไทย หรือแบบฝรั่ง แม้ว่าเหนือหาด จะเต็มไปด้วยย่านธุรกิจและการค้า ซึ่งแปรเปลี่ยนไปตามความเจริญที่หลั่งไหลเข้ามา  แต่ชายหาดและทะเลที่ป่าตอง ยังคงความงาม และบันดาลความสุขให้แก่นักท่องเที่ยวคนแล้วคนเล่า โดยมิแปรเปลี่ยน

Cr.www.thaigoodview.com/library/teachershow/phuket/ustasit_k/place-sea/patong.html

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หินตา - หินยาย


หินตา - หินยาย


  พูดถึงเกาะสมุย นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีมากมายแล้ว ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งบนเกาะที่ทุกคนอยากมาดูให้เห็นกับตา ในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติจากการสร้างสรรค์ของลมและน้ำ จนกล่าวได้ว่าหากใครไม่ได้มาดูถือว่าไม่ได้ถือว่ามาไม่ถึงเกาะสมุย คือ "หินตา หินยาย" หินตาหินยายอยู่ที่อ่าวละไม ตำบลมะเร็ด ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะสมุยไปทางทิศตะวันออกประมาณ 17 กิโลเมตร ห่างจากหาดเฉวงประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นปรากฏการณ์ธรรมชิตของหินแกรนิต ที่เกิดจากการกัดเซาะโดยน้ำทะเล สายลม และแสงแดด จนเกิดเป็นโขดหินรูปร่างประหลาด ลักษณะคล้ายอวัยวะเพศของชายและหญิงอยู่เคียงคู่กัน ตำนานท้องถิ่นเล่าต่อๆกันมาว่า นานมาแล้วมีตายายคู่หนึ่ง ชื่อตาเครงและยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางโดยเรือใบเพื่อจะไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชายชื่อคง โดยมีนายท้ายเรือ คือนายปราบเพื่อนของลูกชาย ครั้งเรื่อแล่นมาถึงบริเวณแหลมละไม เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม สินสอดทองหมั้นที่เตรียมมาจมน้ำหายไปจนสิ้น ส่วนญาติสนิทมิตรสหายที่เดินทางมาร่วมกัน จมน้ำเสียชีวิตกลายเป็นเกาะเล็กเกาะน้อย รายรอบเกาะสมุย หลายๆคนถูกน้ำพัดไปกลายเป็นหมู่เกาะอ่างทอง นายคงถูกน้ำซัดไปทางหาดเชิงมนเสียชีวิตกลายเป็นเกาะกง ด้านนายปราบนั้นเกาะเรือสำเภาของตัวเองลอยไปทางอ่าวบ้านดอน จนก่อนจะเข้าอ่าวบ้านดอนเรือสำเภาจมลงจนกลายเกาะนกเภา ส่วนนายปราบนั้นเสียชีวิตกลายเป็นเกาะปราบ อยู่บริเวณอ่านบ้านดอนนั้นเอง คงเหลือรอดชีวิตแค่ตาเครงและยายเรียม ถูกน้ำทะเลพัดเข้าหาดละไม ทั้งตาและยายเสียใจมาก และกลัวว่าตาม่องล่ายจะคิดว่าเป็นคนไม่รักษาคำพูด จึงพากันกลั้นใจกระโดดน้ำตาย กลายเป็นหินตาหินยายทุกวันนี้